วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

นักแบดไทย ตีกัน

            เมื่อวันก่อนน้ัน ได้มีการแข่งขันแบดมินตัน แคนาดาโอเพ่น ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับโลก ที่มีนักแบดมือระดับโลกเข้าร่วมการแข่งขันมากมาย แต่เมื่อถึงรอบชิงชนะเลิศนั้น ก้เป็นการพบกันเองระหว่างนักแบด ชายไทย เป็นการแข่งขันประเภทชายคู่ ซึ่งก็เป็นการที่คู่ ก่อนนั้นเป็นความหวังของทีมชาติ ไทยที่จะหมายว่าจะให้ได้เหรียญในกีฬาโอลิมปิกในสมัยหน้า เพราะว่าทั้งคู่นั้นจับคู่ แล้วเล่นกันได้อย่างน่าดู อีกพร้อททั้งยังมีอายุที่ยังไม่มาก ซึ่งก็จะเป็นความหวังของแบดมินตันชายคุ่ของไทย แต่ครั้นต่อมาไม่นาน ด้วยเหตุผลที่ว่า บดินทร์ นั้นได้มีอีกสโมสรหนึ่งที่หยิบยื่นข้อเสนอให้ไปเล่นกับสโมสรเอกชน แกนนูร่า ซึ่งก็น่าที่จะเสนอผลตอบแทนให้มากกว่านั่นเอง ซึ่งตอนนั้นก็เป็นเพราะว่าทั้ง บดินทร์ และ มณีพงษ์ นั้นก็ได้ตกลงกันแล้ว แต่ครั้นถึงเวลา มณีพงษ์ นั้นก็ไม่ยอมออกมาจากสโมสรต้นสังกัดเดิม ก็เลยทำให้ทั้งคู่นั้นก็แยกทางกัน และต่างฝ่ายต่างก็จับคุ่เล่นใหม่ ซึ่งทางบดินทร์ นั้นก็ได้ไปเล่นให้กับสโมสรแกนนูร่า ส่วนทางด้านมณีพงษ์ นั้นก็ยังเล่นให้สฌมสรเดิมคือสโมสรสมาตมแบดมินตันแห่งประเทศไทยซึ่งเมื่อเปลี่ยนคุ่แล้วก็ตาม เมื่ออยุ่ในวงการเดียวกัน ก็ย่อมที่จะเจอกันอยู่เป็นเนืองนิด และก็ด้วยความที่ไม่ลงรอยเดิมอยุ่แล้วนั้นก็เลยทำให้ทั้งคู่นั้น มีปัญหาระหองระแหงกันเรื่อยมา บั๋นเฆือก กันเรื่อยมา แล้วทั้งคู่นั้นก็มามีปัญหาระดับโลกโดยที่ทั้งคู่นั้นก็ถือว่ายีงเป็นวัยรุ่นที่เรียกได้ว่าเลือดร้อนอยุ่เหมือนกัน ทางด้านเจ้าอาร์ต บดินทร์นั้นมีลูกแล้ว 1 คน เป็นลูกสาว ส่วนทางด้านมณีพงษ์ นั้นเป็นโสดอยู่ซึ่งทั้งคู่นั้นมีอายุใกล้เคียงกัน คือทั้งมณีพงษ์ และ บดินทร์นั้นอายุเพียง 23 ปี เท่านั้น ส่วนลูกสาวของ บดินทร์ นั้นอายุเพิ่งจะ 3 ขวบ ซึ่งเรียกได้ว่ากำลังน่ารักน่าชังเลยทีเดียว บั๋นเฆือก ซึ่งการแข่งขันที่ทั้งคู่มาเจอกันที่ประเทศ แคนาดานั้น ก็ได้เข้ามารอบชิงชนะเลิศทั้งคู่ โดยที่เกมส์แรกนั้น ฝ่ายคู่ของ มณีพงษ์ นั้น เป็นฝ่ายชนะก่อน ซึ่งก็ได้ทำการพูดจาถากถางและยั่วยวนกัน มาตลอดเกมส์การแข่งขันซึ่งต่อมาก็ฝ่ายของมณีพงษ์ นั้นก็ได้พูดให้ของลับทางด้านบดินทร์ ก่อน ทำให้ด้านบดินทร์นั้น เก็บอารมณ์ ไว้ไม่อยู่สร้างความฮือฮา ระดับโลก และวงการแบดมินตันซึ่งถือว่าเป็นกีฬาของผู้ดี และเป็นกีฬาของสุภาพบุรุษ อดรนทนไม่ได้ ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแดนกันพอดี เลยทำให้ บดินทร์ นั้นได้ต่อยมณีพงษ์ก่อน 2-3 ครั้ง แล้วมณีพงษ์นั้น ก็วิ่งหนี ส่วนบดินทร์นั้นก็ได้วิ่งไล่ โดยที่มร๊พงษ์ นั้นก็ได้ใช้ไม้แบดมินตัน ฟาดไปที่หูของบดินทร์ ถึงกับหูฉีกเลยทีเดียว ซึ่งไม้แบดนั้นทำมาจากการ์ไฟร์ เป็นไททาเนียม ซึ่งเป็น คาร์บอนชนิดที่แข็งแต่ก็เปราะบางอยู่เหมือนกันเวลาที่กระทบเนื้อนั้นก็จะเขียวชำ้ และเจ็บแปล็บๆ เลยทีเดียว ซึ่งด้านบดินทร์นั้นก็วิ่งไล่มณีพงษ์ จนมณีพงษ์ นั้นก็ล้มลงซึ่งบดินทร์ นั้นก็ต่อยไปหลายหมัดแล้วยังเตะเข้าไปอีกหนึ่งตรั้ง แล้วโค๊ช และเพื่อนก็ ห้ามเอาไว้ ซึ่งทางด้านผู้จัดการแข่งขันนั้นก็ได้ปรับให้ทางด้านบดินทร์ ซึ่งเป็น กระเป๋าขายส่ง นั้นเป็นผู้แพ้และได้ให้ทางด้านมณีพงษ์ นั้นเป็ฯผู้ชนะ และขึ้นไปรับถ้วยรางวัล เพราะถือว่าบดินทร์ นั้นผิดเพราะว่าเป็นผู้ที่ลงมือก่อน หลังจากนั้นทางฝ่ายบดินทร์ และโค๊ช นั้น ก็ได้ออกมา กล่าวขอโทษ และยอมรับผิดทุกอย่าง โดยที่มีแผลติดบาดแผลที่บริเวณ หูซ้าย ส่วนทางด้านมณ่พงษ์นั้น กับถาพที่เห็นการขึ้นรับถ้วยรางวัลนั้น ก็ไม่แสดงว่ามีบาดแผลเลยแม้แต่น้อย ซึ่งทางด้านสมาคมแบดมินตันนั้นก็ได้ออกมาบอกว่า ต้องรอให้กลับมา ถึงเมืองไทยก่อนแล้วจะเรียกเข้ามาคุย ซึ่งทั้งนี้นั้น จากการสัมภาษร์ นักแบดมินตันระดับโลกชาวคานาดา หลายคนนั้น ต่างก็บอกว่า ไม่เคยเจอเหตุการณืที่มีนักแบดมินตันระดับโลก ไล่ต่อยตีกันขนาดนีมาก่อน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ช็อควงการแบดมินตันโลกเลยทีเดียว มีขายที่ โรงเกลือ ซึ่งทั้งคู่นั้นก็เคยไปเที่ยวด้วยกันอยู่คะ
ซึ่งการลงโทษ ของสมาคมนานาชาตินั้น อาจจะลงโทษ แบนทั้งคู่ไม่ให้ลแข่งไปตลอดชีวิตก็ได้ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เป็นการเสื่อมเสียแก่ ชื่อเสียงของประเทศไทยด้วย ซึ่งรุ่นพี่และประชาชนนั้น ต่างก็เห็นใจและให้อภัย ซึ่งบอกว่าเป็นเพราะวัยที่เป็นวัยรุ่น อยู่ทำให้เลือดร้อนไปหน่อยคะ ซึ่งความวุ่นวายนี้ ก็อาจจะได้รับความกระจ่างหลังจากที่ทั้งคู่กลับมาพรุ่งนี้คะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น