แล้วก็มาถึงขั้นตอนการตรวจสอบว่ารถนั้นมาจากไหน ใครเป็นเจ้าของ แล้วก็ทาง ดี เอส ไอ นัน้ก็ได้ทำการตรวจสอบแล้วก็ปิดคดีได้ โดยที่ได้ผู้ต้องหานั้น อยุ่สองคน ซึ่งจากการสืบค้นนั้น เมื่อทาง ดี เอส ไอ นั้น ได้ลงพื้นที่ ก็ได้ สาวต่อไปก็ได้มีชื่อเณรคำ
ซึ่งได้มีชื่อหนึ่งในผู้ครอบครองรถหรู หลวงปู่เณรคำนั้น ที่ได้เรื่องนั้นก็เพราะว่า มีการใช้โชเชี่ยลเนตเวิร์ค นั้นโพส ลงในอินเตอร์เนต ซึ่งเป็นการที่เขานั้น ไม่อาจที่จะเลี่ยงได้ มีทั้งรูปที่ นอนกับหลับ โดยที่มีหญิงสาวนอนอยู่ข้างๆ และภาพที่ถ่ายโดยไม่สำรวม
โดยถ่ายคู่กับรถหรู ในท่าทางที่ไม่เหมาะ และถ่ายรูปโดยที่ชูสองนิ้ว ที่ห้างสรรพสินค้า รวมทั้งรูปที่สะพายกระเป๋า ยี่ห้อดัง หลุยส์ วิตตอง Louis Vuitton ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะไม่ควร ซึ่งเป็นกระแสสังคม และก็เป็นข่าวคราวออกมาอย่างต่อเนื่อง
แล้วเรื่องของการที่ได้เป็ฯกระแสอย่างนี้นั้นก็รู้อยุ่ว่าสังคมไทยนั้น รับไม่ได้ อย่างแน่นอน เพราะว่าจากการกระแสสังคมบีบ จึงมีการสืบค้น จนผู้ที่มีจิตศรัทธาท่านหนึ่งนั้น ได้ออกมา ยอมรับว่า ท่านหลวงปู่เณรคำนั้น ลูกสาวของท่านนั้นเป็นผู้ที่ซื้อ กระเป๋าให้เอง
เพราะท่านนั้น อยากจะได้ เลยไม่ขัดศรัทธา เลยซื้อให้ แล้วก็ัยงมีครั้งที่ลูกสาวกับลูกชายนั้น ได้พาไปเที่ยวประเทศจีนนั้น หลวงปู่เณรคำนั้น ก็บอกว่าอยากเที่ยวผู้หญิง ให้หาให้หน่อย ฝ่ายลูกชายนั้น ก็ได้ เตือนว่านี่เป็นเรื่องที่ผิดศีลนะครับ ท่านเณรคำนั้นก็ยังมาบอกว่า
เพียงแค่อยากศึกษาโลกภายนอก เท่านั้น แต่ก็ไท่ได้หาให้ และท่านผู้หญิงนั้นกำลังจะบริจาคเงิน และจะซื้อเครื่องบินส่วนตัวให้อีกเ้วย ซึ่งก่อนหน้านั้นก็บริจาคเป็นเงินไปแล้วหลายสิบล้านบาท ซึ่งหลังจากที่ข่าวออกมาแล้วก็เลยหยุดบริจาค ส่วนทางด้านทาง
ตำรวจนั้นก็ได้เข้าไปทำการตรวจค้นเพิ่มเติม โดยที่ทางเณรคำนั้นไม่อยู่ ทางลูกศิษย์นั้น รายงานว่า ได้ออกเผยแพร่ศาสนาที่ประเทศ ฝรั่งเศส ซึ่งจากการตรวจสอบของมางเจ้าหน้าที่นั้น ยิ่งวาวก็ยิ่งเละ เพราะว่า ได้มีผู้หญิง พร้อมกับเด็กชาย อายุ 11 ปี ได้ออก
มาแล้วอ้างว่าเป็นลูกของหลวงปู่เณรคำ ซึ่งตอนนั้นเธอมีอายุเพียงแต่ 14 ปีเท่านั้น ซึ่งการที่ออกมาแสดงตัวนี้ ยังได้อ้างอีกว่าทางเณรคำ นั้น ไม่ดูแลเอาใจใส่มาเป็นเวลา 7 ปีแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ได้ส่งสำนวนฟ้องศาลแล้ว เรียกค่า เลิ้ยงดู เป็นเงิน จากเณรคำนั้น สูงถึง
สี่สิบล้านบาท แล้วยังมีอีกตรงที่บัญชีเณรคำนั้น จาก 10 บัญชี นั้น มีเงินหมุนเวียน ถึง สองร้อยล้านบาท และรวมรถหรู นั้น นับ หลายสิบคัน มูลค่า กว่า 90 ล้านบาท และอัญมณี นับสิบล้านบาท รวมไปถึงตอนนี้นั้น ยังมีทองที่บริจาคนั้นเป็นเงิน ที่หายไปโดยที่สง
สัยว่าเณรคำนั้น ได้นำไปใช้ส่วนตัว และยังมีทองคำซึ่งรวบรวมจากผู้ที่บริจาคเพื่อที่จะสร้างเป็นเครื่องห่ม ให้กับพระแก้วมรกต ด้วย คิดเป็ฯน้ำหนักประมาณ 8,000 กว่ากิโลกรัม และพระแก้วมรกตนั้น หลวงปู่เณรคำนั้น อ้างว่าทำจากหยพที่จะทำให้ใหญ่ที่สุดในโลก โดยสร้างจากหยกแท้ แต่เมื่อมี
ที่ได้นำไปดูแล้วก็บอกว่าเป็นเพียงหินที่มีสีเขียวไม่ใช่หยก เพราะหยกนั้นต้องเขียวใส แต่นี่เขียวทึบ ซึ่งจะต้องส่งพิสูจณ์ อีกครั้ง ซึ่งขณะนี้นั้นทางตำรวจได้อายัติ ทรัพย์ ไว้ตรวจสอบแล้ว ซึ่งทางหลวงป฿่เณรคำนั้น ก็ยังไม่ได้กลับมารับทราบข้อกล่าวหาแต่อย่างได
ซึ่งบางข่าวนั้นก็บอกว่า ได้บินไปสหรัญฯ แล้วและพักอยุ่ที่ รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีลูกศิษย์ รายงานว่าอยูุ่ในบ้านหรุ ส่วนคดีความนั้น ตอนนี้ก็ถูกตำรวจนั้น ตั้งไว้หลายคดี ตั้ง พรากผู้เยาว์ ข่มขืน และยักยอกทรัพย์ แล้วยังมีเงินในบัญชีนั้น หมุนเวียนอีก ซึ่งทางตำรวจ
นั้นก็จะสืบต่อว่าเป็นการฟอกเงินหรือไม่ เพราะเงินนั้นหมุนเวียนตลอด โโยที่ช่วงเช้านั้น ยังมีเสี่ยกัง ที่อยู่ จังหวัด อุบลราชธานีนั้น ได้นำหลักฐานที่เณรคำนั้น ได้เข้ามาแจ้งตำรวจว่าเณรคำนั้นได้ยืใเงินตนไปทั้งหมด 9 ล้านบาาทแล้ว ซึ่ง อีกห้าชั่วโมงจากนี้
เจา้คณะจังหวัดต้นสังกัดของเณรคำนั้น ได้ขีดเส้นตสยให้เณรคำนั้น เข้ามารับทราบ และรายงานตัว ซึ่งถ้าไม่เข้ามานั้นก็จะขับออกจากสังกัด ซึ่งก็จะทำให้เณรคำนั้น เป็นพระที่ไม่มีสังกัด และเป็นพระเร่ร่อนซึ่งศรีษะเกษ นี่นก็ไม่ห่างจสก โรงเกลือ เท่าไหร่นัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น