การอ่านหนังสือไม่ใช่เพียงแค่อ่านข้อความตามตัวหนังสือที่มีไว้ในหนังสือให้จบเล่มเท่านั้น
แต่การอ่านนั้นมีจุดประสงค์สำคัญคือการรับรู้ความหมาย
และทำความเข้าใจกับข้อความที่เขียนเป็นตัวหนังสือ
การจะอ่านหนังสือให้มีประสิทธิภาพ นักศึกษาต้องรู้ว่าก่อนว่า
อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้อ่านหนังสือได้ขาดประสิทธิภาพ และ
พยายามแก้ไขตามสาเหตุเหล่านั้น
สาเหตุที่ทำให้การอ่านหนังสือขาดประสิทธิภาพ มีดังนี้
การอ่านทีละคำ การอ่านออกเสียงปัญหาเกี่ยวกับศัพท์เฉพาะ การใช้วิธีเดียวกันตลอดในการอ่านทุกประเภท
การใช้นิ้วชี้ข้อความตามไปด้วยในขณะอ่าน การอ่านซ้ำไปซ้ำมา การขาดสมาธิในการอ่าน
ข้อเสนอแนะที่ช่วยให้นักศึกษาอ่านอย่างมีประสิทธิภาพ
1. ไม่อ่านทีละคำ การอ่านทีละคำทำให้อ่านหนังสือได้ช้า
เพราะมุ่งหาความหมายของคำทีละคำ สามารถแก้ไขได้โดยตั้งใจไว้ว่า
เมื่ออ่านหนังสือทุกครั้ง จะจับใจความสำคัญของประโยคด้วยการใช้สายตาเพียงครั้งเดียว
และได้ความหมายทันที
2. ไม่อ่านออกเสียง การอ่านหนังสือออกเสียงไปทีละตัว
โดยทั่วไปติดมาจากนิสัยการอ่านสมัยชั้นประถม
การอ่านออกเสียงไม่ว่าจะมีเสียงออกมาหรือมีเสียงในคอ
การอ่านแบบนี้อ่านได้ช้าทั้งสิ้นเพราะมุ่งแต่ออกเสียงตามตัวหนังสือที่ปรากฎ
การอ่านได้เร็วสามารถแก้ไขได้โดยพยายามทำให้การมอง เห็นรูปทรง
และการประสมคำของตัวหนังสือ สามารถผ่านขั้นตอนการรับรู้ของเราไปสู่สมองได้เลย
โดยไม่ต้องเสียเวลาพินิจพิเคราะห์ว่า
มันมีเสียงอะไรการแก้ไขให้ใช้นิ้วปิดปากในขณะอ่านตลอดเวลาจะทำให้อ่านได้ดีขึ้น
และเมื่อปฏิบัติเช่นนี้จนติดเป็นนิสัยแล้ว จะพบว่าทำให้อ่านได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
3. ไม่มีกังวลเกี่ยวกับศัพท์เฉพาะ การหยุดและกังวลเกี่ยวกับคำศัพท์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนจะทำให้จังหวะในการอ่านและแนวคิดในการอ่านประโยคนั้นหายไป
ดังนั้นแม้ว่าจะไม่รู้ศัพท์บางคำก็สามารถหาความหมายของศัพท์นั้นได้
โดยดูจากข้อความในประโยค ถ้าใช้ความคิดคิดตามตลอดเรื่อง
4. ไม่ใช้วิธีเดียวกันตลอดในการอ่านทุกประเภท นักศึกษาควรใช้วิธีการอ่านที่แตกต่างกันในแต่ละเรื่องที่อ่าน
เช่น อ่านเรื่องเบาสมองก็อ่านเร็วได้ ถ้าอ่านตำราวิชาการต้องใช้ความคิดพิจารณาเนื้อเรื่องก็ใช้เวลาอ่านนานขึ้นนั้นคือผู้อ่านต้องรู้จุดประสงค์ของเรื่องที่จะอ่านด้วย
จึงจะได้ประโยชน์ที่แท้จริง
5. ไม่ใช้นิ้วชี้ข้อความตามไปด้วยในขณะอ่าน จะทำให้อ่านได้ช้าลง
การใช้สายตากวาดไปตามบรรทัดจะเร็วกว่าการใช้นิ้วชี้เพราะสายตาเคลื่อนที่เร็วกว่านิ้ว
วิธีแก้นิสัยนี้อาจทำได้โดยใช้มือจับหนังสือหรือประสานมือกันไว้ในขณะอ่านหนังสือ
6. ไม่อ่านซ้ำไปซ้ำมา การอ่านเนื้อเรื่องที่ไม่เข้าใจ
เป็นการชี้ให้เห็นว่านักศึกษาไม่มั่นใจที่จะดึงเอาความสำคัญของเนื้อความนั้นออกมาได้ด้วยความสามารถของตนเอง
เหตุนี้จึงทำให้อ่านช้าลงเพราะคอยคิดแต่จะกลับไปอ่านใหม่
แทนที่จะอ่านไปทั้งหน้าเพื่อหาแนวคิดใหม่
จงพยายามอ่านครั้งเดียวอย่างตั้งใจความคิดทั้งหลายจะค่อย ๆ มาเอง
ไม่ต้องกังวลว่าตนเองอ่านไม่รู้เรื่อง
7. มีสมาธิในการอ่านการปล่อยให้ความตั้งใจและความคงที่ของอารมณ์ล่องลอยไปกับความคิดที่สอดแทรกเข้ามาขณะอ่าน
จะทำให้ไม่ได้รับความรู้อะไรจากการอ่านเลย นักศึกษาจะต้องพัฒนาความสามารถ
โดยฝึกจิตให้แน่วแน่มุ่งความสนใจอยู่ที่หนังสือเพียงอย่างเดียว กระเป๋า กระเป๋าขายส่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น